thammarith

เดินเท้าสำรวจย่านเก่า ฝุ่น กลิ่น และเสียง

· ธรรมฤทธิ์ ลิขิตธีรเมธ

เช้าวันเสาร์ ตื่นสายกว่าปกติ กาแฟดำหนึ่งแก้วในแก้วสแตนเลสแล้วออกเดินทาง ตั้งใจเริ่มที่สะพานพุทธ ลัดเลาะเข้าซอยเล็ก ๆ ไปท่าเตียน ทำความรู้จักกรุงเทพฯ ด้วยความเร็วของมนุษย์ ไม่ใช่ความเร็วของเครื่องยนต์ ถนนยังวุ่นวาย แต่อยู่ในระดับที่คุยกับตัวเองได้ยาว ๆ

แถวคลองผดุงกรุงเกษมยังมีร่มเงาต้นไม้ใหญ่ให้พัก เสียงเรือหางยาวผ่านเป็นจังหวะ ๆ กลิ่นน้ำกร่อยคลุกกลิ่นควันหมูปิ้งกับขนมปังปิ้งประหลาดดีอย่างบอกไม่ถูก แวะซื้อหมูไม้ละ 10 บาทใส่ถุงพลาสติกหูหิ้ว เดินกินไปก็ระวังนกพิราบไป ด้านหน้ามีเด็กปั่นจักรยานสีแดงคันเล็ก ๆ แม่เดินตามห่าง ๆ หลบรถจักรยานยนต์ที่ชอบโผล่จากมุมอับอย่างไม่เกรงใจ

เข้าย่านท่าเตียน ร้านขายของแห้งยังคึกคัก กลิ่นปลาหมึกแห้งกับกะปิแรงจนต้องลดความเร็วเท้า มองดูแม่ค้าหยิบถุง คล้องยาง แช๊ะเดียวแน่นเปรี๊ยะ ความชำนาญที่สะสมจากวันแล้ววันเล่า โรงเรียนของมือ ตรงหัวมุมมีร้านก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลาเส้นเหนียวนุ่ม น้ำซุปใสหอมพริกไทย กินเสร็จสั่งเก๊กฮวยเย็นแก้วหนึ่ง น้ำแข็งกรุ๊งกริ๊งชื่นใจเกินราคา

เดินต่อไปวัดโพธิ์ ผู้คนหลากภาษา นักท่องเที่ยวถ่ายรูปกับเจดีย์ลายกระเบื้องสีสด เราไม่เข้าไปในวัด แค่นั่งหลบแดดตรงเงาตึกเก่า ๆ แล้วมองคนเดินไปมา บางทีการเที่ยวของเราก็เป็นแบบนี้ แค่ยอมให้ตัวเองอยู่นิ่ง ๆ แล้วปล่อยเมืองเดินผ่านหน้า ไม่ต้องพิชิตเช็กลิสต์อะไรทั้งนั้น

ขากลับเลือกทางเลียบแม่น้ำ ลมแรงจนหมวกเกือบปลิว เห็นเรือด่วนธงส้มเทียบท่ารับคน มีเสียงเร่งให้รีบขึ้นมาพร้อมเสียงหวีดเครื่องยนต์แสบหู แต่อย่างไรซะ น้ำก็ยังสวยเมื่อกระทบแสง บนฟ้าฝูงนกยางบินเป็นแนวเฉียง ทิ้งเงาบนผิวน้ำคล้ายเส้นดินสอ

กลับถึงบ้านรองเท้าผ้าใบเปื้อนฝุ่นหนา ๆ แต่ใจเบาขึ้นอย่างชัดเจน กรุงเทพฯ ยังมีมุมเดินได้อยู่จริง แค่ต้องยอมช้าลง ยอมหลงซอยบ้าง แล้วหาเงาไม้ตามทางเป็นเพื่อน เดินคนเดียวก็ไม่ได้น่ากลัวเท่าที่คิดหรอก แค่เริ่มก้าวแรกให้ได้ก็พอ