ทำงานจากตรังหนึ่งสัปดาห์
ผมย้ายโต๊ะทำงานไปอยู่ที่ตรังหนึ่งสัปดาห์ ถือว่าเป็นการทดลอง “ทำงานจากที่ไหนก็ได้” แบบจริงจังครั้งแรก ตั้งใจว่าทุกเช้าจะเดินไปคาเฟ่ใกล้ที่พัก เปิดคอมให้ทัน 9 โมง แล้วทำงานยาวจนบ่ายแก่ ๆ ก่อนแวะตลาดท่าแพหาอะไรทอด ๆ กลับมากินที่บ้านพัก
วันแรกฝนตกตั้งแต่ตีห้า เสียงท่อระบายน้ำหน้าบ้านดังซู่ ๆ บอกว่าฝนคงไม่หยุดง่าย ๆ ผมเดินกางร่มไปคาเฟ่ชื่อ Namsai ที่เปิดเพลงโซลยุค 70 เบา ๆ บาริสต้าเสิร์ฟอเมริกาโน่คั่วกลาง แอบใส่น้ำเชื่อมนิดเดียวให้ตาสว่าง พอเสียง Slack ดังครั้งแรก ความรู้สึก “โอเค ทำงานได้แล้ว” ก็มาแบบอัตโนมัติ
สิ่งที่ต่างจากกรุงเทพฯ คือจังหวะการเริ่มวัน คนเข้าร้านช้ากว่า ทุกอย่างเหมือนขยับทีละนิด ทำให้ผมมีสมาธิแปลก ๆ ประชุมเช้ากับทีมผ่านวิดีโอคอลก็ราบรื่นกว่าที่คิด อินเทอร์เน็ตบ้านพักเสถียรกว่าห้องเช่าในกรุงเทพฯ เสียอีก (อันนี้แอบตกใจนิดหน่อย)
ช่วงกลางสัปดาห์ ผมสลับไปนั่งที่ร้านได่ย่างข้างตลาด ตอนเที่ยงกินข้าวหมูกรอบน้ำจิ้มสามรสแบบบ้าน ๆ 50 บาท ยังพอหาได้ ที่เหลือคือเดินย่อยฝนพรำ ๆ กลับเข้าบ้าน รีบส่ง PR ก่อน 4 โมง ครบถ้วนตามเดดไลน์ที่ตั้งใจไว้พอดี มีพลาดพิมพ์ตก 1 จุด ต้องกลับไปแก้ แอบเขินตัวเองหน่อย ๆ
เย็นวันพฤหัส ผมปิดแลปท็อปเร็วหน่อย ไปนั่งดูรถไฟเข้า–ออกสถานีตรัง เห็นเด็กมัธยมกลับบ้านเป็นกลุ่ม ๆ แล้วรู้สึกคิดถึงตอนตัวเองเรียนต่างจังหวัด ความรู้สึกปลอดภัยและช้าแบบนี้ ทำให้หัวโล่ง และนอนหลับสนิทกว่าเดิม
สัปดาห์นี้สรุปได้ว่าทำงานได้พอ ๆ กับกรุงเทพฯ แต่เหนื่อยน้อยกว่า เพราะสิ่งรบกวนแทบไม่มี และการเดินไป–กลับคาเฟ่กลายเป็นกิจวัตรที่ช่วยตั้งสติได้ดีมาก รอบหน้าอยากลองอยู่ยาว 2–3 อาทิตย์ ดูว่าจังหวะนี้จะยังเวิร์กอยู่ไหม ถ้าใช่ ผมคงวางแผนทำ WFA ให้เป็นจังหวะประจำทุกไตรมาสไปเลย